สรุปลักษณะและข้อมูลพรรณไม้

บริเวณที่พบ : สวนธรรม, หอประชุม
ลักษณะพิเศษของพืช : ใช้ใบหรือต้นเป็นยาขับลม
ลักษณะทั่วไป : กะเพราเป็นพืชที่ใช้ใบอ่อนสดมาประกอบอาหารเพื่อดับกลิ่นคาว ของอาหารประเภทเนื้อต่าง ๆ ช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอมเพิ่มรสชาติ เมนูที่พบบ่อย ๆ ได้แก่ ผัดกะเพราไข่ดาว ผัดขี้เมาแกงป่า ต้มโคล้ง ผัดเผ็ดนก / ปลา หรือลวกยอดกะเพราจิ้มน้ำพริก จะได้รสชาติิที่เป็นเอกลักษณ ์ เฉพาะตัวเพิ่มมากขึ้น จะเห็นได้ว่า อาหารชั้นแนวหน้า ในวงการธุรกิจ ที่ต้องเอาใจนักบริโภค ยังต้องใส่รสกะเพราเข้าไปในอาหารชนิดต่าง ๆ แสดงถึงความนิยม และการยอมรับในรสชาติ ผัดกะเพราจานด่วนรสเด็ดแบบ ไทยที่มีคุณค่าอาหารสูงนั่นเอง
ลำต้น : เป็นไม้ล้มลุก แตกกิ่งก้านสาขา สูง 30 - 60 ซม. โคนลำต้นค่อนข้างแข็ง ตามลำต้นมีขน
ใบ : เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปรี กว้าง 1-3 วม. ยาว 2.5-5 ซม. ปลายแหลมหรือมน โคนแหลม ขอบจักฟันเลื่อยและเป็นคลื่น แผ่นใบมีขน
ดอก : เป็นแบบช่อฉัตร ออกบริเวณปลายยอดและปลายกิ่ง ยาว 8-10 ซม. ประกอบด้วยดอกเล็กๆ ออกเป็นวงรอบแกนช่อเป็นชั้นๆ ก้านดอกยาว 2-3 มม. และกางออกตั้งฉากกับแกนช่อ กลีบเลี้ยงโคนติดกันเป็นรูปคล้ายระฆัง ปลายแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนบน มีกลีบเดียวค่อนข้างกลม ส่วนกลางแยกเป็น 4 แฉก ปลายแหลมเรียว ด้านในเกลี้ยง ด้านนอกมีขนตามโคนกลีบ กลีบดอกสีขาวหรือขาวปนม่วงแดง ด้านบนมี 4 กลีบ ด้านล่างมี 1 กลีบ ขนาดยาวกว่าด้านบน ตรงกลางกลีบเว้าตื้นๆ ปลายกลีบม้วนพับลง
ผล/เมล็ด : เล็กรูปไข่สีน้ำตาล มีจุดสีเข้มเมื่อนำไปแช่น้ำเปลือกหุ้มเมล็ดพองออกเป็นเมือก
ประโยชน์ : กะเพรามีสารอาหารครบถ้วน มีเบต้าแคโรทีนสูงมาก ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง และหัวใจขาดเลือด มีแคลเซียม และฟอสฟอรัส ในปริมาณสูงช่วยบำรุง กระดูกและฟันให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุและวิตามินอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลายชนิด เมื่อเปรียลเทียบกะเพรา ๒ ชนิดในปริมาณเท่ากัน กะเพราแดงจะมีเบต้า แคโรทีนและฟอสฟอรัส สูงกว่ากะเพราขาว และกะเพราขาว มีแคลเซียมสูงกว่ากะเพราแดง นอกจากคุณค่าทางอาหารแล้ว กะเพรายังมีฤทธิ์เป็นยาช่วยขับลม แก้ท้องอืด เฟ้อ จุกเสียดแน่นได้ดี รวมทั้งแก้อาการคลื่นไส้อาเจียนที่เกิดจากธาตุไม่ปกติ โดยต้มเอาน้ำดื่มหรือปรุงเป็นอาหารรับประทาน

พิกัด :